ธรรมะคนกรุง

มุมมองด้านศาสนธรรมกับชีวิตคนเมืองหลวง..ประเทศไทย


จาก.."สวัสดีกรุงเทพฯ" รายสัปดาห์
My Photo
Name:
Location: สวนเมตตาธรรม, เชียงใหม่, Thailand

Friday, July 15, 2005

เข้าพรรษา..ในใจ



เข้าพรรษา..ในใจ

อีกไม่กี่วันข้างหน้า ชาวพุทธ ก็จะถึง วาระสำคัญ อีกโอกาสหนึ่ง ซึ่ง พิเศษ กว่าเวลาปกติ กล่าวคือ ฝ่าย บรรพชิต จะถือเป็นโอกาสปฏิบัติตามพุทธวินัยที่พระบรมศาสดากำหนดระยะเวลาไว้เป็นกาลเฉพาะเจาะจง ขณะที่ฝ่าย คฤหัสถ์ หรือเรียกแบบไทยๆ ว่าฝ่าย ฆราวาส ก็มีโอกาสตั้งจิตเป็น ธรรมาธิษฐาน ประกาศตนถือธรรมเป็นที่ตั้ง หวังให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ใน ทำนองคลองธรรม ยิ่งกว่าที่เคยเป็นเสียคราวหนึ่ง

นั่นคือ วาระของ พรรษากาล ตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึง ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ครบถ้วน ตรีมาส รวม ๓ เดือนเต็ม นั่นเอง

เป็นที่แน่ชัด ว่าข้อปฏิบัติฝ่ายบรรพชิต(หรือฝ่ายภิกษุสงฆ์)นั้นเนื่องอยู่ด้วย พรรษา หรือ วสฺส ในภาษาบาลี ซึ่งหมายถึง ฤดูฝน เป็นด้านหลัก โดยถือเอา ระยะ นี้ เป็นห้วงเวลามิต้องออกจาริก ละเว้นการย่ำเหยียบข้าวกล้าในนาไร่ อันเกษตรกรเพาะหว่านไว้ในฤดูอันเหมาะสม แล้วขวนขวายปฏิบัติตนในที่อันจำเพาะซึ่งประกาศไว้ต่อหน้ากันและกันในหมู่คณะ ว่าจะร่วมศึกษาและปฏิบัติด้วยกันให้ครบถ้วนเงื่อนเวลาตามพระธรรมวินัย

น่าสนใจก็ที่ ชาวพุทธไทย ฝ่าย ผู้ครองเรือน จำนวนหนึ่ง(และนับวันจะยิ่งมากขึ้น) ถือเป็น เวลาพิเศษ ของตน ในอันที่จะ ปฏิบัติพิเศษ หรือ เข้มงวด กับตนเอง อย่างยิ่ง ตามไปด้วย ซึ่งก็ถือเป็นความ น่ารัก ของชาวพุทธไทย ทั้งๆ ที่ว่าไปแล้ว ก็อาจไม่เคยปรากฏเช่นนี้ในแผ่นดินพุทธศาสนาอื่นๆ มาก่อนเลยก็เป็นได้

กล่าวคือ เป็นการประกาศตนเป็นชาวพุทธ แบบไทยๆ ในวาระ เฉพาะกิจ-เฉพาะกาล ที่ได้รับความนิยม และนับวันจะขยายตัวออกไปใหญ่โตยิ่งขึ้นทุกๆ ที

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะเวลาผ่านมาไม่กี่ปี ที่ ภาครัฐ อาศัย โหนกระแส ประโคมเรื่องนี้อย่างเอาจริงเอาจัง ทั้ง งดเหล้าเข้าพรรษา และ/หรือ ลด ละ เลิก อะไรอื่นๆ เข้าพรรษา ที่ทยอยตามกันมา จนดูราวกับว่า นี่เป็นเวลา ปฏิบัติธรรม โดยตรง-โดยเฉพาะ เอาเลยทีเดียว

ปัญหาคงอยู่ที่ว่า... แล้ว เวลาที่เหลือ เล่า...จะเอาอย่างไรกันดี??

แน่ละ ว่าการ ปฏิบัติธรรม อย่าง เคร่งครัด-เข้มงวด นั้นเป็นที่น่ายกย่อง ยิ่งใน เวลาพิเศษ ที่ถือปฏิบัติกันเป็น หมู่คณะ ก็ยิ่งน่าสรรเสริญ

แต่ นักปฏิบัติธรรม ที่ดี ก็มิควรที่จะ แบ่งส่วนแยกซอย มองอะไรเป็นดำเป็นขาวจนเกินไปมิใช่หรือ?

คำถามสำคัญจึงอยู่ที่ว่า... ทำอย่างไรเราทั้งหลายจะสามารถ เกลี่ย หรือ เฉลี่ย การศึกษาและปฏิบัติธรรมให้ขยายขอบเขตออกไปให้ได้ ตลอดปี มิใช่พากันถือว่า ๙ เดือนทำบาป แล้วค่อยชำระความเปื้อนเปรอะทางวิญญาณด้วย ๓ เดือนทำดี อย่างที่บางคนพยายามกระทำตามๆ กันไป

การลด ละ เลิก เพื่อ เข้าพรรษา นั้นเป็นเรื่องดีแน่ แต่น่าจะดีกว่าหรือไม่ หากเราทั้งหลายมี ต้นทุน ความดีงามมาบ้างแล้ว หรือมีศีลมีธรรมอยู่บ้างแล้ว โดยมิได้หวัง ตักตวงบุญ เอาเพียงแค่ช่วงเวลา ๓ เดือนที่จะถึงนี้เท่านั้น

อย่างอื่นก็ตีค่า ตั้งราคา ค้ากำไร กันไปหมดแล้ว ละเว้น บุญเข้าพรรษา เอาไว้สักนิดมิได้เลยเชียวหรือ?

0 Comments:

Post a Comment

<< Home

eXTReMe Tracker